หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2558

พิพิธภัณฑ์ กลโกงชาติ

15 กันยายน - 4 ตุลาคม 2558
ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

ชั้น L




จำลองการจัดงานโดยรวม
ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ชั้น L



จุดประสงค์ของงาน

   ในห้วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา "คอร์รัปชั่น" เป็นภัยคุกคามลำดับต้นๆ ที่ฉุดรั้งการพัฒนาของประเทศไทย สร้างความเสียหายให้เศรษฐกิจและสังคมอย่างมิอาจประเมินค่าได้ เนื่องใน วันต่อต้านคอร์รัปชันแห่งชาติ" 6 กันยายนองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ได้จัดสร้าง "พิพิธภัณฑ์กลโกงชาติ" ขึ้น เพื่อประณามและแฉกลวิธีในการคอร์รัปชั่นรูปแบบต่างๆที่เกิดขึ้นในสังคมไทย รวมถึงจารึกชื่อคนโกง เพื่อให้เป็นที่จดจำของคนรุ่นหลัง
   ประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เผยว่า พิพิธภัณท์กลโกงชาติ เป็นเเนวคิดหลักที่ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อตีแผ่ และประณามผู้กระทำผิดที่สร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติเนื่องจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา องค์กรฯได้ติดตามคดีสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง คดีเหล่านี้นอกจากจะมีผลกระทบอันรุนเเรงทางด้านเศรษฐกิจเเล้ว ยังสามารถนำมาเป็นบทเรียนให้ประชาชนได้มีความตระหนักรู้ถึงผลของการทุจริตคอรัปชั่นได้อีกด้วย
 พิพิธภัณท์กลโกงชาติ บอกเล่าเรื่องราวความเลวร้ายของปัญหาคอร์รัปชั่นผ่านงานประติมากรรมหุ่นปั้นสำริด พร้อมนำเสนอวีดีทัศน์เเละเอกสารประกอบโดยจัดเเสดงที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิล์ด กทมหลังจากนั้นทางองค์กรฯ จะเจรจากับทาง ปปช. เพื่อขอนำประติมากรรมทั้งหมดไปจัดเเสดงร่วมกับ พิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติซึ่งตั้งอยู่บนถนนพิษณุโลกใกล้กับทำเนียบรัฐบาล ในลักษณะกึ่งถาวร  ขณะที่อนาคตมีความตั้งใจว่า จะเคลื่อนย้ายพิพิธภัณฑ์ไปจัดเเสดงในจุดที่ทางองค์กรฯ ไปทำกิจกรรมด้วย




10 คดีประวัติศาสตร์ "ไม่มีวันลืม"

   คำจำกัดความที่เป็นสากลระบุว่า การคอรัปชั่นคือ กระบวนการบิดเบือนอำนาจโดยมิชอบ เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้ ”  โดยพิพิธภัณท์กลโกงชาติได้คัดเลือก 10 คดีสำคัญประวัติศาสตร์ที่สร้างความเสียร้ายเเรงให้ประเทศชาติมานำเสนอดังนี้





คดีจำนำข้าว
 พ.ศ. 2557
เสียหาย 539,000 ล้านบาท

   นี่คือการโกงเชิงนโยบายที่สร้างความหายนะให้กับประเทศมากที่สุด จากการเสียงบประมาณครั้งใหญ่ของประเทศ เสียพันธุ์ข้าวดีๆ และเสียความน่าเชื่อถือของประเทศไทยในฐานะผู้ผลิตข้าวให้กับโลก รวมถึงยังสร้างช่องทางการมีส่วนร่วมโกงตั้งแต่คนใหญ่คนโต จนถึงคนตัวเล็กที่สุดก็คือชาวนา เป็นการทำลายทั้งเศรษฐกิจและจิตวิญญาณของคนไทยไปหมดสิ้น




คดีสนามฟุตซอลโรงเรียน
 พ.ศ. 2557
เสียหาย 600 ล้านบาท


   เมื่อผู้มีอำนาจทำเป็นหวังดีสร้างสนามกีฬากลางแจ้งให้ฟรีๆแก่เด็ก ให้โรงเรียนในสังกัด สพฐ. กว่า 17 จังหวัด มีเหรอที่คนเป็นครูจะไม่เอา แต่สิ่งที่เขาสร้างให้กลางแจ้งก็คือการสร้างสนามฟุตซอลในร่มให้!?! แถมสร้างไม่ได้มาตราฐาน ใช้ได้ไม่นานก็เจ๊งเละเทะ คนโกงที่พูดแค่ลมปากก็ลอยตัวสบาย เหลือไว้เป็นมรดกบาป และคดีความให้ครูผู้หวังดีที่เซ็นรับงานกลายเป็นแพะรับบาปต่อไป




คดีคลองด่าน
 พ.ศ. 2541
เสียหาย 21,000 ล้านบาท

   นี่คืออีกคดีเหม็นเน่าของประเทศ ที่โกงคนเดียวเสร็จสรรพ จากการอุปโลกน์จัดตั้งทุกอย่างเอง ใช้อำนาจตั้งแต่ เสนอโครงการบำบัดน้ำเสีย จัดซื้อที่ดิน ต. คลองด่านของบริษัทที่เป็นคนในครอบครัวเอง ด้วยราคาที่สูงกว่าปกติ แถมยังเป็นพื้นที่เขตป่าอนุรักษ์ อันได้มาโดยมิชอบ แล้วสุดท้ายก็เซ็นสัญญาอนุมัติเงินกันเอง แต่ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ ระบบบำบัดน้ำเสียที่ว่าก็ยังไม่เกิดขึ้นสักที เรียกได้ว่าเป็นกิจโกงในครอบครัวแบบครบวงจรเลยทีเดียว




คดีปลัดคมนาคม
พ.ศ. 2554
เสียหาย 65 ล้านบาท

   เมื่อข้าราชการที่ร่ำรวยผิดปกติในบ้านเราอยู่สุขสบายมาก ยื่นบัญชีทรัพย์สินกี่ทีก็ไม่มีปัญหา ไม่ว่าหน่วยงานไหนก็หาความผิดปกติไม่เจอ แต่ก็ตกม้าตายง่ายๆ ก็ตอนที่โจรกระจอกคนหนึ่งไปขึ้นบ้านข้าราชการ หวังว่าจะได้อะไรบ้าง แต่ก็ไม่คิดว่าจะเข้าไปเจอทรัพย์สมบัติมหาศาล ถึงขั้นเสียดายที่ไม่ได้เอารถบรรทุกมาขน แต่สุดท้ายเมื่อโจรกระจอกคนนี้ถูกจับได้แล้ว แล้วการสาวถึงของกลาง จึงทำให้ทรัพย์สินของข้าราชการคนนี้ถูกเปิดโปง พูดก็พูด คดีนี้ต้องขอบคุณโจร ที่มาช่วยเปิดโปง ตรวจสอบทรัพย์สิน จากการโกง




คดีนกน้อยในไร่ส้ม
พ.ศ. 2549
เสียหาย 138 ล้านบาท

   เมื่อธุรกิจอยู่เหนือความถูกต้อง เงินอยู่เหนือจรรยาบรรณ ผู้ที่เรียกตัวเองเป็นสื่อกลางที่จะชี้นำสังคมไปในทางที่ถูกต้อง ดันโกงซะเอง โดยรับค่าโฆษณาที่เกินเวลาแล้วซุกเข้ากระเป๋าตัวเอง พอโดนจับก็คืนแบบไร้ซึ่งความรับผิดชอบ แถมยังออกสื่อมีหน้ามีตาในสังคมได้ปกติ น่าละอายแทนวิชาชีพสื่อไทย ตราบใด มีเงิน มีผลประโยชน์ สื่อบางพวกก็อาจพร้อมจะไร้ซึ่งจรรยาบรรณได้ทันที




คดีรถหรูเกรย์มาร์เก็ต
พ.ศ. 2556
เสียหาย 60,000 ล้านบาท

  "ความสามัคคี คือ พลัง" เมื่อข้าราชการไทยโชว์ให้เป็นตัวอย่าง ทั้งกรมศุลกากร กรมสรรพสามิต กรมการขนส่งทางบก และสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม ร่วมกันโกงกันเป็นทีม โกงแบบบูรณาการ อาศัยช่องว่างทางกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้เอกชนแสดงรายการส่วนประกอบรถยนต์ไม่ครบถ้วน และแจ้งราคานำเข้ารถยนต์หรูต่ำกว่าที่เป็นจริง ทำให้รัฐต้องสูญเสียภาษีกว่าหลักพันล้านบาท




คดีโกงลำไย
พ.ศ. 2547
เสียหาย 5000 ล้านบาท

   ต้นแบบนโยบายประชานิยมปล้นชาติ การแทรกแซงราคาพืชผลทางการเกษตรแบบไม่ปฏิเสธการโกง ตั้งแต่การคัดเลือกบริษัทเอกชนที่ไม่เคยทำลำไยอบแห้งมารับงาน เปิดช่องนำลำไยเก่าคุณภาพต่ำมาวนขายซ้ำ การสวมสิทธิ์ อีกทั้งยังเป็นคดีที่เกิดขึ้นมานมนาน แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าในการหาตัวต้นเหตุความวอดวาย ก็ไม่แปลกที่จะเกิดการทุจริตในแวดวงเกษตรกรรมของไทยมาโดยตลอด และนี่คือคดีที่เป็นต้นแบบในการโกงเชิงนโยบายและการใช้นโยบายประชานิยมมาหาช่องทางโกงกินที่ตามมาอีกมากมายหลังจากนี้




คดีบางกอกฟิล์มเฟส
พ.ศ. 2552
เสียหาย 61.2 ล้านบาท

   เชื่อว่าเป็นอีกคดีที่พวกเราลืมไปแล้วว่าเขาโกง อย่าว่าแต่เราเลย คนโกงเองก็ยังจะลืม เพราะความล่าช้ามาของผู้บังคับใช้กฏหมายไทย จากกรณีการรับสินบนข้ามชาติในการจัดเทศกาลหนัง "บางกอกฟิล์มเฟสติวัล" ซึ่งสองสามีภรรยาชาวอเมริกา ผู้ติดสินบนก็ยังถูกประเทศเขาตัดสินจับติดคุกจนทุกวันนี้ออกมาแล้ว แต่คนโกงบ้านเรายังมีชีวิตสุขสบาย เดินช๊อปปิ้งชิลๆ จนคดีความจะหมดอายุอยู่แล้ว เป็นอีกหนึ่งความ Amazing Thailand ที่คดีคนตัวเล็กไว คนตัวใหญ่ช้าทุกที สงสัยกฏหมายบ้านเราจะมีไว้ใช้กับเฉพาะคนจน




คดีทุจริตโรงพัก
พ.ศ. 2555
เสียหาย 5,848 ล้านบาท

   มื้อนี้คนเดียวอิ่ม จากการรวบสัญญาให้ผู้รับเหมาเจ้าเดียวสร้างโรงพัก 396 แห่งทั่วประเทศ อย่างว่ามันจะเป็นไปได้ยังไงให้เจ้าเดียวทำทั่วประเทศ ทุกวันนี้ก็เลยไม่มีโรงพักไหนสร้างเสร็จ และก็ยังจับตัวคนผิดยังไม่ได้ งบประมาณแผ่นดินถูกทิ้งเป็นซากปรักหักพัง เป็นหลักฐานของความอดสูของคนไทย ที่แม้แต่ผู้พิทักสันติราษฐ์ของประเทศยังถูกปล้นทั่วประเทศ แล้วประเทศเรายังมีที่พึ่งอะไรให้ประชาชนอีก





อ้างอิง

ข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์

( เว็บไซต์ พิพิธภัณฑ์กลโกงชาติ )

( เว็บไซต์ โพสต์ทูเดย์ )

( เว็บไซต์ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันประเทศไทย )

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น