หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558

แผนที่นิทรรศการต่างๆ

หอประวัติคณะแพทยศาสตร์

หอประวัติคณะแพทยศาสตร์ แบ่งพื้นที่จัดแสดงออกเป็นส่วนต่าง ๆ ดังนี้
โถงทางเข้า

ได้แนวคิดจากการจำลองทางเข้าของตึกพยาธิ ซึ่งนับเป็นอาคารหลังแรกของคณะแพทย์ที่สร้างเสร็จในปี 2493 หลังจากที่คณะก่อตั้งได้ 3 ปี ลวดลายบนกระจกประตู เป็นการดัดแปลงจากลายของอาคารเก่าต่าง ๆ ที่มีอยู่ในคณะ

1.โซนพระมหากรุณาธิคุณ
นำเสนอภาพเขียนองค์พระมหากษัตริย์ที่ทรงให้การอุปถัมถ์คณะแพทยศาสตร์จากวันก่อตั้งจนถึงทุกวันนี้ รวมทั้งจัดแสดงแซกโซโฟนที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต่อวงดนตรีคณะแพทย์ นับเป็นสมบัติสิ้นสำคัญที่หาประมาณค่ามิได้
2.โซนลำดับเหตุการณ์สำคัญ
นำเสนอลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ช่วงก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน ด้วยระบบหน้าจอสัมผัส เพื่อเรียกดูข้อมูลเจาะจงแต่ละช่วงเวลาได้
3.โซนบรรยากาศจากอดีตสู่อนาคต
นำเสนอภาพบรรยากาศที่สวยงามและได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานการออกแบบชั้นเลิศในสมัยนั้น ซึ่งปัจจุบันยังคงเหลืออาคารที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์อยู่จำนวนหนึ่ง รวมไปถึงการนำเสนอวิสัยทัศน์ในการพัฒนาคณะแพทย์และโรงพยาบาลจุฬายุคใหม่ ที่มีความสมัย สวยงามและมีสภาพแวดล้อมที่ดีที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต
4.โซนชีวิตในคณะแพทย์
นำเสนอเรื่องราวตั้งแต่การเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชาวคณะ หรือที่เรียกกันว่าเผ่า ตามประเพณีงานอินเดียนที่สืบทอดมาช้านาน ซึ่งระหว่างเรียนรู้วิชา นิสิตจะได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน ในด้านต่าง ๆ ทั้งกิจกรรมที่ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม กิจกรรมสันทนาการและบันเทิง ซึ่งทั้งหมดนี้เพื่อพัฒนาบุคคลิกภาพและจิตใจที่ดี อันเป็นคุณลักษณะอันสำคัญของอาชีพแพทย์
5.โซนศาสตร์วิชาแห่งการแพทย์
พื้นที่ส่วนวิชาการทั้งการเรียนภาคทฤษฎี เลคเชอร์เก่า ๆ ของอาจารย์ รวมทั้งการเรียนกายวิภาคซึ่งเป็นวิชาสำคัญที่นักเรียนทุกคนจะต้องผ่านประสบการณ์นี้ เป็นการจำลองให้นิสิตรุ่นหลังหรือผู้เข้าชมได้เห็นบรรยากาศการเรียนการสอนในอดีต
6.โซนผลผลิตแห่งความภาคภูมิใจ
เป็นพื้นที่แห่งการสร้างแรงบันดาลใจ ให้นิสิตรุ่นหลังและผู้เข้าชมได้เห็นตัวอย่างผลงานในด้านต่าง ๆ จากศิษย์เก่าของคณะ ไม่ว่าจะเป็นด้านวิชาชีพการแพทย์ ด้านการวิจัย วิขาการ จนไปถึงด้านสังคมและบันเทิง พื้นที่โล่งในส่วนนี้จึงเป็นพื้นที่ที่ออกแบบให้เกิดการสนทนาแลกเปลี่ยนกันของผู้มาเยือนหลังจากรับทราบความเป็นมาต่าง ๆ ของคณะ เพื่อให้มีโอกาสหยุดพัก สร้างแรงบันดาลใจ ก่อนที่จะออกนิทรรศการนี้ไป

STEP Museum Street Society


"STEP Museum Street Society" Place : โรบินสันรัชดาเก่า ตรงข้ามตึก Cyber ถนน รัชดาภิเษก. Mrt ศูนย์วัฒนธรรมฯ ทางออก 4. Date : 15 ตุลา - 15 พฤศจิกายน 2558

แผนที่ Art in paradise พัทยา


Art in Paradise พิพิธภัณฑ์ภาพจิตรกรรม 3 มิติ
เลขที่ 78/34 หมู่ 9 ถ.พัทยา สาย 2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 20150 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร.038 – 424500
การเดินทางไป Art in paradise พัทยา
จากถนสุขุมวิทเลี้ยวขวาตรงไฟแดงพัทยาเหนือ ขับตรงไปผ่านโลตัส ผ่านศาลาว่ากลางเมืองพัทยา เลยไปนิดนึง จะมีซอยซ้ายมือ เขียนว่าทางไปบิ๊กซีพัทยาหนือ ขับตรงไป 300 เมตร ขวามือ จะมีป้ายเขียนเป็นโชว์บิ๊กอาย จากนั้นก็จะถึง Art in paradise อยู่ติดกัน
แผนที่ Art in paradise พัทยา


นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในโอกาสการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี






นิทรรศการถนนราชดำเนินนอก
เวลา 09.00 - 21.00 น.

1. กรมพัฒนาที่ดิน

2. สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม

3. กรมปศุสัตว์
รายละเอียด
- ไข่ไก่
- เนื้อสุกรปลอดสารพิษ
- ผลิตภัณฑ์กรมปศุสัตว์ ได้แก่ ไส้กรอก ลูกชิ้น แฮม ฯลฯ
- ผลิตภัณฑ์จากแพะ ประเภทเครื่องสำอาง ได้แก่ สบู่ โลชั่น ครีมอาบน้ำ ฯลฯ
- เบเกอร์รี่จากแพะ ประเภทเบเกอรี่ ขนมปัง ครัวซอง คุกกี้ โยเกิร์ต ฯลฯ

4. กรมการข้าว
แนวคิด "ข้าวของพ่อ" รายละเอียด

4.1 นิทรรศการข้าวของพ่อ "พันธุ์ข้าวพระราชทาน”

4.2 โครงการกองทุนพระราชทานในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ต.ท่าวัง จ.น่าน

4.3 นิทรรศการการจัดการน้ำในนาข้าวอย่างประหยัดรู้คุณค่าของน้ำ

4.4 นิทรรศการข้าวคุณภาพพิเศษเพื่อตลาดเฉพาะ
- น้ำมันข้าว
- เครื่องสำอางจากข้าว
- ข้าว Gi ข้าวกล้อง ข้าวเหนียว



5. สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ร่วมกับ กรมวิชาการเกษตรและกรมส่งเสริมการเกษตร

6. กรมส่งเสริมการเกษตร ร่วมกับ กรมวิชาการเกษตรและ มกอช.


แผนผังจัดนิทรรศการฝัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

1. กรมฝนหลวงและการบินเกษตร

2. กรมชลประทาน

3. กรมประมงและองค์การสะพานปลา

4. กรมประมงและองค์การสะพานปลา

5. กรมหม่อนไหม

6. กรมส่งเสริมสหกรณ์ และ อสค.

7. กรมส่งเสริมสหกรณ์ และ อสค.

8. กรมตรวจบัญชีสหกรณ์

9. องค์การสวนยาง และ สกย.

10. สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

พิพิธภัณฑ์หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ




พิพิธภัณฑ์หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ก่อตั้งขึ้นด้วยปณิธานของมูลนิธิปอเต็กตึ๊ง ในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ผสานกับปรัชญาของมหาวิทยาลัยในการมีส่วนร่วมบำรุงศิลปวัฒนธรรมและการวิจัยเพื่อชุมชน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จึงมีทั้งกิจกรรม โครงการต่างๆ รวมทั้งการจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ เนื้อหาหลักนิทรรศการ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ไทย - จีน ในด้านต่างๆ จากอดีตถึงปัจจุบัน ประกอบด้วยนิทรรศการเรื่องพระบรมโพธิสมภาร นิทรรศการ 90 ปี มูลนิธิปอเต็กตึ๊ง (เนื้อหามาจากผลงานการวิจัย) โรงพยาบาลหัวเฉียว มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ นอกจากนั้นทางพิพิธภัณฑ์ฯมีโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นของจังหวัดสมุทรปราการ

โถงทางเข้าพอพิพิธภัณฑ์ ติดตั้งป้ายจารึกอักษรภาษาจีน ขยายจากฝีพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อ่านว่า "ฉงเซิ่นเป่าเต๋อ" หมายถึงเฉลิมพระเกียรติสนองพระคุณ ด้านล่างเป็นพระนามของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ อ่านว่า "ซือหลินทง" หมายถึงผู้เชี่ยวชาญเรื่องหยกและบทกวี จากนั้นเป็นเรื่องความสัมพันธ์ทางไทย - จีน ในด้านต่างๆ อาทิ ด้านการค้าทางเรือสำเภา การอพยพของชาวจีนสู่ประเทศไทยช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 การจำลองร้านขายยาแผนโบราณ การแพทย์ การรักษาสุขภาพ แผนที่และภาพแสดงชุมชนการค้าเก่าของชาวจีนย่านสำเพ็ง ภูมิปัญญาของชาวจีนด้นการทอผ้าด้วยกี่กระตุก ศิลปกรรม วรรณกรรมที่แปลจากภาษาจีน เครื่องดนตรี ความเชื่อ ศาสนา จนถึงภาพการเปิดความสัมพันธ์ทางการทูต สมัย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี ฯลฯ

นอกจากนี้ยังมีส่วนของ "พิพิธภัณฑ์สมุทรปราการ" จัดแสดงของที่ได้รับจากชุมชน เช่น สามล้อ เรือ หมวก เครื่องสีฝัดข้าว อุปกรณ์ทำนา ฟืมสำหรับทอเสื่อจากอาคารชั้นนี้มีส่วนเชื่อมต่อกับสวนจีนภายนอก ชั้นที่ 2 เรียกว่า Hall of Fame แสดงเรื่องพระบรมโพธิสมภาร ประดิษฐานพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แสดงพระราชประวัติ และป้ายที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเปิดมหาวิทยาลัย พระปรมาภิไธย และอุปกรณ์ที่ทรงปลูกต้นโพธิ์ และรูปปั้นผู้ก่อตั้ง

ข้อมูลเว็บไซต์

วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2558

พิพิธภัณฑ์ กลโกงชาติ

15 กันยายน - 4 ตุลาคม 2558
ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

ชั้น L




จำลองการจัดงานโดยรวม
ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ชั้น L



จุดประสงค์ของงาน

   ในห้วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา "คอร์รัปชั่น" เป็นภัยคุกคามลำดับต้นๆ ที่ฉุดรั้งการพัฒนาของประเทศไทย สร้างความเสียหายให้เศรษฐกิจและสังคมอย่างมิอาจประเมินค่าได้ เนื่องใน วันต่อต้านคอร์รัปชันแห่งชาติ" 6 กันยายนองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ได้จัดสร้าง "พิพิธภัณฑ์กลโกงชาติ" ขึ้น เพื่อประณามและแฉกลวิธีในการคอร์รัปชั่นรูปแบบต่างๆที่เกิดขึ้นในสังคมไทย รวมถึงจารึกชื่อคนโกง เพื่อให้เป็นที่จดจำของคนรุ่นหลัง
   ประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เผยว่า พิพิธภัณท์กลโกงชาติ เป็นเเนวคิดหลักที่ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อตีแผ่ และประณามผู้กระทำผิดที่สร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติเนื่องจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา องค์กรฯได้ติดตามคดีสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง คดีเหล่านี้นอกจากจะมีผลกระทบอันรุนเเรงทางด้านเศรษฐกิจเเล้ว ยังสามารถนำมาเป็นบทเรียนให้ประชาชนได้มีความตระหนักรู้ถึงผลของการทุจริตคอรัปชั่นได้อีกด้วย
 พิพิธภัณท์กลโกงชาติ บอกเล่าเรื่องราวความเลวร้ายของปัญหาคอร์รัปชั่นผ่านงานประติมากรรมหุ่นปั้นสำริด พร้อมนำเสนอวีดีทัศน์เเละเอกสารประกอบโดยจัดเเสดงที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิล์ด กทมหลังจากนั้นทางองค์กรฯ จะเจรจากับทาง ปปช. เพื่อขอนำประติมากรรมทั้งหมดไปจัดเเสดงร่วมกับ พิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติซึ่งตั้งอยู่บนถนนพิษณุโลกใกล้กับทำเนียบรัฐบาล ในลักษณะกึ่งถาวร  ขณะที่อนาคตมีความตั้งใจว่า จะเคลื่อนย้ายพิพิธภัณฑ์ไปจัดเเสดงในจุดที่ทางองค์กรฯ ไปทำกิจกรรมด้วย




10 คดีประวัติศาสตร์ "ไม่มีวันลืม"

   คำจำกัดความที่เป็นสากลระบุว่า การคอรัปชั่นคือ กระบวนการบิดเบือนอำนาจโดยมิชอบ เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้ ”  โดยพิพิธภัณท์กลโกงชาติได้คัดเลือก 10 คดีสำคัญประวัติศาสตร์ที่สร้างความเสียร้ายเเรงให้ประเทศชาติมานำเสนอดังนี้





คดีจำนำข้าว
 พ.ศ. 2557
เสียหาย 539,000 ล้านบาท

   นี่คือการโกงเชิงนโยบายที่สร้างความหายนะให้กับประเทศมากที่สุด จากการเสียงบประมาณครั้งใหญ่ของประเทศ เสียพันธุ์ข้าวดีๆ และเสียความน่าเชื่อถือของประเทศไทยในฐานะผู้ผลิตข้าวให้กับโลก รวมถึงยังสร้างช่องทางการมีส่วนร่วมโกงตั้งแต่คนใหญ่คนโต จนถึงคนตัวเล็กที่สุดก็คือชาวนา เป็นการทำลายทั้งเศรษฐกิจและจิตวิญญาณของคนไทยไปหมดสิ้น




คดีสนามฟุตซอลโรงเรียน
 พ.ศ. 2557
เสียหาย 600 ล้านบาท


   เมื่อผู้มีอำนาจทำเป็นหวังดีสร้างสนามกีฬากลางแจ้งให้ฟรีๆแก่เด็ก ให้โรงเรียนในสังกัด สพฐ. กว่า 17 จังหวัด มีเหรอที่คนเป็นครูจะไม่เอา แต่สิ่งที่เขาสร้างให้กลางแจ้งก็คือการสร้างสนามฟุตซอลในร่มให้!?! แถมสร้างไม่ได้มาตราฐาน ใช้ได้ไม่นานก็เจ๊งเละเทะ คนโกงที่พูดแค่ลมปากก็ลอยตัวสบาย เหลือไว้เป็นมรดกบาป และคดีความให้ครูผู้หวังดีที่เซ็นรับงานกลายเป็นแพะรับบาปต่อไป




คดีคลองด่าน
 พ.ศ. 2541
เสียหาย 21,000 ล้านบาท

   นี่คืออีกคดีเหม็นเน่าของประเทศ ที่โกงคนเดียวเสร็จสรรพ จากการอุปโลกน์จัดตั้งทุกอย่างเอง ใช้อำนาจตั้งแต่ เสนอโครงการบำบัดน้ำเสีย จัดซื้อที่ดิน ต. คลองด่านของบริษัทที่เป็นคนในครอบครัวเอง ด้วยราคาที่สูงกว่าปกติ แถมยังเป็นพื้นที่เขตป่าอนุรักษ์ อันได้มาโดยมิชอบ แล้วสุดท้ายก็เซ็นสัญญาอนุมัติเงินกันเอง แต่ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ ระบบบำบัดน้ำเสียที่ว่าก็ยังไม่เกิดขึ้นสักที เรียกได้ว่าเป็นกิจโกงในครอบครัวแบบครบวงจรเลยทีเดียว




คดีปลัดคมนาคม
พ.ศ. 2554
เสียหาย 65 ล้านบาท

   เมื่อข้าราชการที่ร่ำรวยผิดปกติในบ้านเราอยู่สุขสบายมาก ยื่นบัญชีทรัพย์สินกี่ทีก็ไม่มีปัญหา ไม่ว่าหน่วยงานไหนก็หาความผิดปกติไม่เจอ แต่ก็ตกม้าตายง่ายๆ ก็ตอนที่โจรกระจอกคนหนึ่งไปขึ้นบ้านข้าราชการ หวังว่าจะได้อะไรบ้าง แต่ก็ไม่คิดว่าจะเข้าไปเจอทรัพย์สมบัติมหาศาล ถึงขั้นเสียดายที่ไม่ได้เอารถบรรทุกมาขน แต่สุดท้ายเมื่อโจรกระจอกคนนี้ถูกจับได้แล้ว แล้วการสาวถึงของกลาง จึงทำให้ทรัพย์สินของข้าราชการคนนี้ถูกเปิดโปง พูดก็พูด คดีนี้ต้องขอบคุณโจร ที่มาช่วยเปิดโปง ตรวจสอบทรัพย์สิน จากการโกง




คดีนกน้อยในไร่ส้ม
พ.ศ. 2549
เสียหาย 138 ล้านบาท

   เมื่อธุรกิจอยู่เหนือความถูกต้อง เงินอยู่เหนือจรรยาบรรณ ผู้ที่เรียกตัวเองเป็นสื่อกลางที่จะชี้นำสังคมไปในทางที่ถูกต้อง ดันโกงซะเอง โดยรับค่าโฆษณาที่เกินเวลาแล้วซุกเข้ากระเป๋าตัวเอง พอโดนจับก็คืนแบบไร้ซึ่งความรับผิดชอบ แถมยังออกสื่อมีหน้ามีตาในสังคมได้ปกติ น่าละอายแทนวิชาชีพสื่อไทย ตราบใด มีเงิน มีผลประโยชน์ สื่อบางพวกก็อาจพร้อมจะไร้ซึ่งจรรยาบรรณได้ทันที




คดีรถหรูเกรย์มาร์เก็ต
พ.ศ. 2556
เสียหาย 60,000 ล้านบาท

  "ความสามัคคี คือ พลัง" เมื่อข้าราชการไทยโชว์ให้เป็นตัวอย่าง ทั้งกรมศุลกากร กรมสรรพสามิต กรมการขนส่งทางบก และสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม ร่วมกันโกงกันเป็นทีม โกงแบบบูรณาการ อาศัยช่องว่างทางกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้เอกชนแสดงรายการส่วนประกอบรถยนต์ไม่ครบถ้วน และแจ้งราคานำเข้ารถยนต์หรูต่ำกว่าที่เป็นจริง ทำให้รัฐต้องสูญเสียภาษีกว่าหลักพันล้านบาท




คดีโกงลำไย
พ.ศ. 2547
เสียหาย 5000 ล้านบาท

   ต้นแบบนโยบายประชานิยมปล้นชาติ การแทรกแซงราคาพืชผลทางการเกษตรแบบไม่ปฏิเสธการโกง ตั้งแต่การคัดเลือกบริษัทเอกชนที่ไม่เคยทำลำไยอบแห้งมารับงาน เปิดช่องนำลำไยเก่าคุณภาพต่ำมาวนขายซ้ำ การสวมสิทธิ์ อีกทั้งยังเป็นคดีที่เกิดขึ้นมานมนาน แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าในการหาตัวต้นเหตุความวอดวาย ก็ไม่แปลกที่จะเกิดการทุจริตในแวดวงเกษตรกรรมของไทยมาโดยตลอด และนี่คือคดีที่เป็นต้นแบบในการโกงเชิงนโยบายและการใช้นโยบายประชานิยมมาหาช่องทางโกงกินที่ตามมาอีกมากมายหลังจากนี้




คดีบางกอกฟิล์มเฟส
พ.ศ. 2552
เสียหาย 61.2 ล้านบาท

   เชื่อว่าเป็นอีกคดีที่พวกเราลืมไปแล้วว่าเขาโกง อย่าว่าแต่เราเลย คนโกงเองก็ยังจะลืม เพราะความล่าช้ามาของผู้บังคับใช้กฏหมายไทย จากกรณีการรับสินบนข้ามชาติในการจัดเทศกาลหนัง "บางกอกฟิล์มเฟสติวัล" ซึ่งสองสามีภรรยาชาวอเมริกา ผู้ติดสินบนก็ยังถูกประเทศเขาตัดสินจับติดคุกจนทุกวันนี้ออกมาแล้ว แต่คนโกงบ้านเรายังมีชีวิตสุขสบาย เดินช๊อปปิ้งชิลๆ จนคดีความจะหมดอายุอยู่แล้ว เป็นอีกหนึ่งความ Amazing Thailand ที่คดีคนตัวเล็กไว คนตัวใหญ่ช้าทุกที สงสัยกฏหมายบ้านเราจะมีไว้ใช้กับเฉพาะคนจน




คดีทุจริตโรงพัก
พ.ศ. 2555
เสียหาย 5,848 ล้านบาท

   มื้อนี้คนเดียวอิ่ม จากการรวบสัญญาให้ผู้รับเหมาเจ้าเดียวสร้างโรงพัก 396 แห่งทั่วประเทศ อย่างว่ามันจะเป็นไปได้ยังไงให้เจ้าเดียวทำทั่วประเทศ ทุกวันนี้ก็เลยไม่มีโรงพักไหนสร้างเสร็จ และก็ยังจับตัวคนผิดยังไม่ได้ งบประมาณแผ่นดินถูกทิ้งเป็นซากปรักหักพัง เป็นหลักฐานของความอดสูของคนไทย ที่แม้แต่ผู้พิทักสันติราษฐ์ของประเทศยังถูกปล้นทั่วประเทศ แล้วประเทศเรายังมีที่พึ่งอะไรให้ประชาชนอีก





อ้างอิง

ข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์

( เว็บไซต์ พิพิธภัณฑ์กลโกงชาติ )

( เว็บไซต์ โพสต์ทูเดย์ )

( เว็บไซต์ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันประเทศไทย )

วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2558

"ฝากไทย"

" ฝากไทย "

ถอดรหัสเสน่ห์ของที่ระลึกเพื่อการท่องเที่ยว

ณ. หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
บริเวณผนังโค้ง ชั้น 3-4-5 (ห้อง EGG ชั้น 2 Hof Art)


ภาพบริเวณภายในงาน "ฝากไทย"



กำลังวิเคราะห์งาน "สงใสคงเครียด"
เจอของจังหวัดยะลา บ้านเกิดผม "ผมนิอยากเหมาให้หมดเบยย" เสียดายไม่มีเงิน
ภาพภายในงาน "ฝากไทย"




*หมายเหตุ : ตอนเข้าร้วมฟังการสัมมนา แบตกล้องหมดจึงไม่สามารถถ่ายรูปกลับมาได้
                  งานไม่ได้จัดเป็นโซน แต่ละจังหวัดแยกกันมั่ว ควรจัดเป็นแต่ละโซนเป็นแต่ละภาคดีกว่า
                  เพื่อง่ายแก่การชม

ART-STONE

ART-STONE
งานนิทรรศการศิลปนิพนธ์

BY นักศึกษา ศิลปกรรม
(มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม)




ภาพบรรยากาศภายในงาน

วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ข้อมูลประจำวิชา ARTD3507 Exhibition Design การออกแบบนิทรรศการ

ARTD3507 Exhibition Design

การออกแบบนิทรรศการ


คณะ         มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
หลักสูตร  สาขาวิชาศิลปกรรม
หน่วยกิต  3 (2-2-5)


จันทรเกษม ปริญญาตรี 4 ปี นอกเวลา
กลุ่ม             201

วัน                จันทร์ 
เวลา             17:30-21:30
ห้อง              32-508
อาจารย์:      อาจารย์นรรชนภ ทาสุวรรณ





ศิลปกรรม (ออกแบบนิเทศศิลป์)
มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม